นาย กัว เทียนหมิน ได้กล่าวถึงผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของบริษัท หัวเหว่ยฯ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยปัจจุบัน บริษัท หัวเหว่ยฯ เป็นบริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดของจีน ดำเนินการผลิตและให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสากล ตลอดจนให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรและการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยี ปัจจุบันมีสาขากว่า 100 แห่งทั่วโลก
เมื่อปี พ.ศ. 2542 บริษัท หัวเหว่ยฯ ได้เริ่มทำกิจการในประเทศไทย และล่าสุดเมื่อปี 2544 ได้ก่อตั้งบริษัทในประเทศไทยเพื่อให้เป็นศูนย์ของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ในโอกาสนี้ นาย กัว เทียนหมิน กล่าวแสดงความยินดีกับความสัมพันธ์ไทย-จีนที่มีความพิเศษ แนบแน่น ลึกซึ้ง และขอขอบคุณรัฐบาลไทย สถานเอกอัครราชทูต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ให้การสนับสนุนการลงทุนและการดำเนินงานของ บริษัท หัวเหว่ยฯ ตลอดมา โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือในการแก้ไขข้อพิพาททางธุรกิจในไทยจนลุล่วงเป็นที่น่าพอใจ อันสะท้อนถึงความสัมพันธ์และความเข้าใจที่ดีต่อกัน และถือเป็นตัวอย่างที่ดีต่อของการแก้ไขปัญหาทางธุรกิจนะหว่างประเทศ โดยได้ฝากสถานเอกอัครราชทูตขอบคุณไปยังรับบาลไทยด้วย ซึ่ง ฯพณฯ นายรัฐกิจ มานะทัต เอกอัครราชทูตไทยฯ ได้กล่าวเสริมถึงนโยบายของรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญและสนับสนุนการลงทุนของต่างชาติ ตลอดจน ความสำเร็จจากความพยายามของสองฝ่ายโดยเฉพาะรัฐบาลไทย-จีน ตลอดจนบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการประนีประนอมเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ลุล่วงด้วยดี
สำหรับงานงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ที่นครเซี่ยงไฮ้ บริษัท หัวเหว่ยฯ ได้สร้างศูนย์แสดงนิทรรศการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างวิทยาศาสตร์กับชีวิตประจำวัน โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดที่ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสได้ด้วยตนเอง ซึ่ง นาย กัว เทียนหมิน ได้กล่าวเชิญผู้นำไทยที่จะเข้าร่วมงานเวิลด์ เอ็กซ์โป เข้าชมศูนย์ดังกล่าวด้วย