ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2553 นายเซี่ย ซวี่เหริน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เลี้ยงอาหารกลางวันเป็นเกียรติแก่รัฐมนตรีกรณ์ฯ และทั้งสองท่านได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับพัฒนาการในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและจีน รวมทั้งปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น เช่น เรื่องราคาอสังหาริมทรัพย์และเงินเฟ้อ ทำให้ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า ความร่วมมือระหว่างไทย-จีนและความร่วมมือระหว่างจีนกับอาเซียน อาทิ ความตกลงการค้าเสรี ACFTA และความตกลง Chiang Mai Initiative Multilateralization (CMIM) เป็นเครื่องมือสำคัญในการประคองการฟื้นฟูเศรษฐกิจของภูมิภาคให้เติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน
หลังจากนั้น รัฐมนตรีกรณ์ฯ ได้พบหารือกับนายหลิว หมิงกัง ประธาน China Banking Regulatory Commission (CBRC) เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางและความเป็นไปได้ในการส่งเสริมการลงทุนของจีนในตลาดการเงินของไทย นอกจากนี้ ยังได้พบกับนายเจียง เจี้ยนชิง ประธานกรรมการบริหาร Industrial and Commercial Bank (ICBC) ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของจีนและโลก (ตามมูลค่าทุนจดทะเบียน) และกำลังจะสรุปการตกลงซื้อหุ้นธนาคารสินเอเชียของไทยในเร็ววันนี้ โดยรัฐมนตรีกรณ์ฯ ได้กล่าวแสดงความยินดีที่ธนาคารชั้นนำอย่าง ICBC ให้ความมั่นใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งจะเปิดมิติใหม่ของการแข่งขันในวงการธนาคารไทยที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพการให้บริการให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ประธานเจียงฯ มีกำหนดจะเดินทางไปประเทศไทยในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2553 เพื่อเปิดโฉมธนาคาร “ICBC Thailand” อย่างเป็นทางการ พร้อมกับจะนำคณะนักธุรกิจจีนไปสำรวจลู่ทางการค้าการลงทุนในประเทศไทยอีกด้วย
ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2553 รัฐมนตรีกรณ์ฯ ได้เดินทางไปเขตปกครองตนเองมองโกเลียในเพื่อพบหารือกับนายหู ชุนหัว เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เขตปกครองตนเองมองโกเลีย และนำคณะนักธุรกิจไทย อาทิ บริษัทบ้านปู ไปสำรวจโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งมองโกเลียในเป็นแหล่งถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดของจีน และยังเป็นมณฑลชั้นนำในการผลิตพลังงานทดแทน เช่นพลังงานไฟฟ้าและพลังงานลมเพื่อใช้ภายในจีนอีกด้วย