เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2553 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 100,000 หยวน เพื่อทรงช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่อำเภอยวี่ซู่ มณฑลชิงไห่สาธารณรัฐประชาชนจีน
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายกว่าน มู่ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยพร้อมคณะเฝ้าทูลละอองพระบาท ณ อาคารชัยพัฒนา สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต เพื่อพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวนดังกล่าวให้กับรัฐบาลจีน โดยได้ทรงสอบถามถึงความคืบหน้าในภารกิจการกู้ภัยแผ่นดินไหว การดูแลประชาชนที่ได้รับความลำบาก และได้ทรงแสดงความห่วงใยต่อประชาชนเหล่านั้น
นายกว่าน มู่ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยได้กราบบังคมทูลด้วยความซาบซึ้งใจว่า รัฐบาลและประชาชนจีนรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีที่ได้พระราชทานความช่วยเหลือและทรงห่วงใยในผู้ประสบภัยอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้ทรงพระกรุณาพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวจีน อีกทั้งยังได้ทรงติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับทุกข์สุขของประชาชนชาวจีนอย่างสม่ำเสมอ
พระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงน้ำพระทัยอันเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีต่อรัฐบาลและประชาชนชาวจีนมาโดยตลอด นอกจากนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2553 ยังได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนมณฑลเสฉวน เพื่อทรงเป็นประธานในพิธีเปิดโรงเรียนพระราชทานเซียนเฟิงลู่ สิรินธร ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ก่อสร้างขึ้นใหม่ หลังจากประสบเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงเมื่อปี 2551 ด้วย
เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ชิงไห่ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2553 จนถึงปัจจุบันมียอดผู้เสียชีวิตกว่า 2,000 คน หายสาบสูญประมาณ 200 คน และพบผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วกว่า 12,000 คน