สารจากเอกอัครราชทูตฯ

สารจากเอกอัครราชทูตประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน

สวัสดีครับพี่น้องชาวไทยที่พำนักอาศัยในจีนและชาวจีนทุกท่าน

ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสนี้ ผมขอแสดงความยินดีกับรัฐบาลจีนและ ชาวจีนทุกคนที่ได้มีการเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในปีนี้ ซึ่งรัฐบาลจีนได้ กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนเพื่อรับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเครื่องอิสริยาภรณ์รัฐมิตราภรณ์ในวันที่ 29 กันยายน 2562 ซึ่งถือเป็นเกียรติยศสูงสุดที่จีนมีให้แก่ชาวต่างชาติ ดังนั้น จึงถือได้ว่า ความสัมพันธ์ไทย-จีน มีพัฒนาการที่ก้าวหน้าจนถึงจุดสูงสุดในปีนี้

เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต ไทยและจีนมีสัมพันธไมตรีและติดต่อค้าขายระหว่างกันมาช้านานกว่า 700 ปี ส่งผลให้วัฒนธรรมและประเพณีของจีนผสมผสานกับของไทยจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของคนไทย ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่มีคนเชื้อสายจีนอยู่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้คนไทยและคนจีน มีความใกล้ชิดคุ้นเคยกันดั่งเครือญาติ จนมีคำกล่าวว่า “จีน-ไทย ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ทั้งนี้ ไทยและจีน ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกันอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 ซึ่งถือเป็นการเปิดศักราช ใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศหลังจากที่ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากในยุคสมัยที่มีการแข่งขัน ทางการเมืองระหว่างประเทศ

ปัจจุบัน กล่าวได้ว่าความสัมพันธ์ไทย-จีนมีความใกล้ชิดกันในทุกระดับและรอบด้าน พระบรมวงศานุวงศ์ ของไทยหลายพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยือนจีนอย่างสม่ำเสมอ และมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง อย่างต่อเนื่อง การมีมิตรไมตรีจิตที่ดีต่อกันของสองประเทศในระดับสูงสุดได้ก่อให้เกิดการขยายตัวของความร่วมมือ ในทุกระดับซง่ึครอบคลุมครบทุกมิติ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม จนกระทั่งในปี 2555 ไทยและจีนได้ยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็น “หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน” หรือ “Strategic Comprehensive Cooperative Partnership” นอกจากนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จีนได้กลายเป็น คู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย โดยในปี 2561 มูลค่าการค้าระหว่างกันมีจำนวน 87,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น และจีนยังเป็นประเทศที่เข้าไปลงทุนในไทยมากเป็นอันดับต้น ๆ ของการลงทุนจาก ต่างชาติอีกด้วย

ในระดับประชาชน ทั้งสองฝ่ายมีการติดต่อไปมาหาสู่กันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในปัจจุบัน ชาวจีนนิยม เดินทางไปท่องเที่ยวไทยอย่างมากจนกลายเป็นตลาดนักท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดของไทย โดยมีมากถึง 10.5 ล้านคน ในปี 2561 ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้คนจีนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไทย นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงาม อาหาร อร่อย และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีปัจจัยสำคัญ นั่นคือรอยยิ้มและอัธยาศัยไมตรีที่เป็นมิตรของคนไทย ตลอดจนความรู้สึกใกล้ชิดผูกพันกันของประชาชนทั้งสองฝ่ายด้วย

เมื่อมองไปในอนาคตข้างหน้า นอกจากความร่วมมือดังที่กล่าวแล้ว ผมเห็นว่าทั้งสองประเทศสามารถ เพิ่มพูนความร่วมมือในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการขจัด ความยากจนและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เนื่องจากจีนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการคิดค้นนวัตกรรมสมัยใหม่ จนก้าวขึ้นเป็นประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจสำคัญที่ทำให้ ประเทศพัฒนาอย่างก้าวกระโดด และประชาชนชาวจีนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้น ผมจึงปรารถนาที่จะเห็น ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในด้านดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี ความท้าทายทางการเมืองและเศรษฐกิจทั้งจากภายในประเทศและระหว่างประเทศได้ส่งผล กระทบต่อการเจริญเติบโตของโลกอย่างมีนัยสำคัญ จึงเป็นโอกาสของไทยและจีนในการร่วมมือกันเพื่อก้าวข้าม ความท้าทายดังกล่าว ดังนั้น ในขณะที่จีนกำลังเดินตามยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางหรือ Belt and Road Initiative ที่มีเป้าหมายที่จะเชื่อมโยงประเทศตา่ง ๆ ในเอเชีย ยุโรป และแอฟริกาเข้าด้วยกัน ประกอบกับไทยเอง ก็กำลังดำเนินนโยบาย Thailand 4.0 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงเข้ากับภูมิภาคตา่ง ๆ ดังนั้น ทั้งสองประเทศจึงสามารถร่วมมือ กันเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวบนพื้นฐานของการได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน

สุดท้ายนี้ ผม พร้อมด้วยข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง และสถานกงสุลใหญ่ ทั้ง 9 แห่งในจีน ขอปวรณาตนว่าจะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนของจีนอย่างแข็งขันในการส่งเสริมความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในทุกมิติ เพื่อความเจริญก้าวหน้า มั่นคงและมั่งคั่งร่วมกัน ของประเทศและประชาชนไทย – จีนสืบตอ่ไป

Group 96